วันจันทร์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2560

บันทึกการเรียนวันที่ 25 มกราคม 2560




บันทึกการเรียนครั้งที่ 3

วันพุธที่ 25 มกราคม 2560 เวลา 12.30 - 15.30



ความรู้ที่ได้รับ 

บทบาทหน้าที่ของผู้บริหาร
  ความหมายและประเภทของผู้นำ
            ผู้นำ (Leader) หมายถึง บุคคลที่มีศิลป บุคลิกภาพ ความสามารถ เหนือบุคคลทั่วไป
ประเภทของผู้นำ 
1. ผู้นำตามอำนาจหน้าที่ เป็นผู้นำโดยอาศัยอำนาจหน้าที่ (Authority)
1.1  ผู้นำแบบใช้พระเดช  (Legal Leadership) ผู้นำแบบนี้เป็นผู้นำที่ได้อำนาจในการปกครองบังคับบัญชาตามกฎหมายมีอำนาจตามตำแหน่งหน้าที่ราชการมา
1.2    ผู้นำแบบใช้พระคุณ  (Charismatic Leadership) ผู้นำที่ได้อำนาจเกิดขึ้นจากบุคลิกภาพอันเป็นคุณสมบัติส่วนตัวของผู้นั้น มิใช่อำนาจที่เกิดขึ้นจากตำแหน่งหน้าที่
  ผู้นำแบบพ่อพระ  (Symbolic Leadership) ผู้นำที่มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายมิได้ใช้อำนาจหน้าที่ในการปกครองบังคับบัญชา
2.  ผู้นำตามการใช้อำนาจ 
      2.1 ผู้นำแบบเผด็จการ   (Autocratic Leadership) หรือ อัตนิยม คือใช้อำนาจต่าง ๆ ที่มีอยู่ในการสั่งการแบบเผด็จการ
2.2  ผู้นำแบบเสรีนิยม (Laisser-Faire Leadership) หรือ Free-rein Leadership ผู้นำแบบนี้เกือบไม่มีลักษณะเป็นผู้นำเหลืออยู่เลย คือ ปล่อยให้ผู้อยู่ใต้บังคับบัญชากระทำ
2.3  ผู้นำแบบประชาธิปไตย (Democratic Leadership) ผู้นำแบบนี้ เป็นผู้นำที่ประมวลเอาความคิดเห็น ข้อเสนอแนะจากคณะบุคคลที่อยู่ใต้บังคับบัญชาที่มาประชุมร่วมกัน
3.  ผู้นำตามบทบาทที่แสดงออก 
จำแนกเป็น  3 แบบ คือ
3.1  ผู้นำแบบบิดา-มารดา
3.2  ผู้นำแบบนักการเมือง  (Manipulater Leadership)
3.3  ผู้นำแบบผู้เชี่ยวชาญ  (Expert Leadership)
ภาวะผู้นำ กระบวนการหรือพฤติกรรมการใช้อิทธิพลเพื่อควบคุม สั่งการ เกลี้ยกล่อม จูงใจ ให้ผู้ตามหรือกลุ่ม ปฏิบัติตามเพื่อการบรรลุ
1.           ผู้นำโดยกำเนิด 2. ผู้นำที่มีความอัจฉริยะ 3. ผู้นำที่เกิดขึ้นตามสายงานบริหาร 4.  ผู้นำตามสถานการณ์
ผู้บริหารแบ่งออกเป็น 5 ประเภท คือ
1.  ผู้บริหารทำหน้าที่สั่งการ  (Line Manager)
            2.  ผู้บริหารทำหน้าที่ให้คำแนะนำ  (Staff  Manager)
            3.  ผู้บริหารทำหน้าที่สั่งการเฉพาะด้าน  (Functional Manager)
            4.  ผู้บริหารทั่วไป  (General Manager)
            5.  ผู้บริหาร (Administrator)
ระบบการบริหารแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ
                    1. ระบบเปิด  (Open system) เป็นองค์การซึ่งดำเนินภายในและมีการปฏิสัมพัทธ์ (interacts) กับสภาวะแวดล้อมทั้งภายในและภายนอก วิธีการบริหารงานอย่างอย่างมีระบบนั้นประกอบไปด้วย ปัจจัยจากสภาวะแวดล้อมภายนอกและจากการเรียกร้องขบวนการแปลงสภาพ ระบบการติดต่อสื่อสาร
                   2.   ระบบปิด  (Closed System) เป็นระบบที่ไม่ต้องการอิทธิพลใด ๆ จากภายนอกและไม่ได้เกี่ยวข้องกับสภาวะแวดล้อมต่าง ๆ ธุรกิจมักจะมองแต่ภายในองค์การของตนเองมากกว่าท่าจะสนใจกับสภาพแวดล้อม รอบ ๆ ตัวธุรกิจไม่ว่าจะเป็นลูกค้า รสนิยมผู้บริโภค สภาพการณ์ของตลาด ฯลฯ


กิจกรรม
ให้นักศึกษาออกมานำเสนอคำคม 


ประเมินผู้สอน : คุณครูแต่งกายสุภาพเรียบร้อย สอนเข้าใจ

ประเมินเพื่อน  : เพื่อนๆให้ความร่วมมือในการเรียนการสอน
ประเมินตนเอง: มีสมาธิขณะเรียน มาทันเวลา 

บันทึกการเรียนวันที่ 18 มกราคม 2560




บันทึกการเรียนครั้งที่ 2

วันพุธที่ 18 มกราคม 2560 เวลา 12.30 - 15.30



ความรู้ที่ได้รับ 

ความหมายและความสำคัญ การบริหารจัดการสถานศึกษาระดับปฐมวัย
ความหมาย การบริหารคือ การดำเนินงานของกลุ่มบุคคลเพื่อให้บรรลุจุดประสงค์ที่ตั้งไว้ 
การศึกษา คือ การพัฒนาคนให้มีคุณภาพ ทั้งความรู้ ความคิด และ ความเป็นคนดี  
การบริหารการศึกษา คือ การดำเนินงานของกลุ่มบุคคลเพื่อให้บรรลุจุดประสงค์ไว้พร้อมพัฒนาคนให้มีคุณภาพ

หลักการ แนวคิด และทฤษฎีเกี่ยวข้องกับการบริหาร 
กำหนดจุดหมาย กระบวนการบริหาร ทรัพยากรในการบริหารจัดการที่ดี ระบบควบคุม ปัจจัยที่ส่งผลต่อความสำเร็จในการบริหาร คือครู

ทฤษฏีที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการสถานศึกษา

ทัศนะดั้งเดิม (Classical viewpoint)
การบริหารเชิงวิทยาศาสตร์
การจัดการเชิงบริหาร

การบริหารแบบราชการ
ทัศนะเชิงปริมาณ (Quantitative viewpoint
การบริหารศาสตร์
การบริหารปฏิบัติการ
ระบบสารสนเทศเพื่อการบริหาร

กิจกรรม
ให้นักศึกษาออกมานำเสนอคำคม
การบริหารคือการทำงานให้สำเร้จ โดยอาศัยมือผู้อื่น
ผู้ที่ขาดอำนาจอย่าฟังคำพูดที่ไพเราะอย่ามองที่ภายนอก


ประเมินผู้สอน : คุณครูแต่งกายสุภาพเรียบร้อย สอนเข้าใจ

ประเมินเพื่อน  : เพื่อนๆให้ความร่วมมือในการเรียนการสอน
ประเมินตนเอง: มีสมาธิขณะเรียน มาทันเวลา 

บันทึกการเรียน วันที่ 11 มกราคม 2560




บันทึกการเรียนครั้งที่ 1

วันพุธที่ 11 มกราคม 2560 เวลา 12.30 - 15.30



ความรู้ที่ได้รับ 

คุณครูอธิบายรายวิชาการสอนและปฐมนิเทศนักศึกษา พร้อมทั้งให้ทำแบบทดสอบก่อนเรียน เพื่อทดสอบความรู้ก่อนเรียน เกี่ยวกับรายวิชา ที่เรียน

กิจกรรม

ให้นักศึกษาหาทฤษฎีเกี่ยวกับการบริหารมา 2 ทฤษฎีเกี่ยวกับการบริหารการศึกษาหรือการบริหารทั่วไป 

ทฤษฎีทางการบริหารกลุ่มการจัดการเชิงวิทยาศาสตร์ของเทย์เลอร์  
ความมุ่งหมายสูงสุดของแนวคิดเชิงวิทยาศาสตร์คือ จัดการบริหารธุรกิจหรือโรงงานให้มี ประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงสุด  มองคนงานแต่ละคนเปรียบเสมือนเครื่องจักรที่สามารถ ปรับปรุงเพื่อเพิ่มผลผลิต ขององค์การได้ เจ้าของตำรับ คือประสิทธิภาพของการทำงานสูงสุดจะ เกิดขึ้นได้ต้องขึ้นอยู่กับสิ่งสำคัญ 3 อย่างคือ
1.            เลือกคนที่มีความสามารถสูงสุด   
2.            ฝึกอบบรมคนงานให้ถูกวิธี
3.            หาสิ่งจูงใจให้เกิดกำลังใจในการทำงาน
             วิธีการการทางวิทยาศาสตร์ที่จะบรรลุวัตถุประสงค์เพียงวิธีเดียว ที่ดีที่สุด เขาเชื่อในวิธีแบ่งงานกันทำ ผู้ปฏิบัติระดับล่างต้องรับผิดชอบต่อระดับบน เทย์เลอร์ เสนอ ระบบการจ้างงาน(จ่ายเงิน)บนพื้นฐานการสร้างแรงจูงใจ สรุปหลักวิทยาศาสตร์ประกอบด้วย 3 หลักการดังนี้
    1. การแบ่งงาน
    2. การควบคุมดูแลบังคับบัญชาตามสายงาน
    3. การจ่ายค่าจ้างเพื่อสร้างแรงจูงใจ
แหล่งที่มา : http://www.slideshare.net


ทฤษฏีการบริหารการศึกษา : มาสโลว์ ทฤษฎีลำดับขั้นความต้องการ 5 ขั้น
มาสโลว์เป็นผู้วางรากฐานจิตวิทยามนุษยนิยม เขาได้พัฒนาทฤษฎีแรงจูงใจ ซึ่งมีอิทธิพลต่อระบบการศึกษาของอเมริกันเป็นอันมาก ทฤษฎีของเขามีพื้นฐานอยู่บนความคิดที่ว่า การ ตอบสนองแรงขับเป็นหลักการเพียงอันเดียวที่มีความสำคัญที่สุดซึ่งอยู่เบื้องหลังพฤติกรรมของ มนุษย์ เขามีความเชื่อว่า มนุษย์มีแนวโน้มที่จะมีความต้องการอันใหม่ที่สูงขึ้น แรงจูงใจของ คนเรามาจากความต้องการ พฤติกรรมของคนเรามุ่งไปสู่การตอบสนองความพอใจ มาสโลว์  แบ่งความต้องการพื้นฐานของมนุษย์ออกเป็น 5 ระดับด้วยกัน ได้แก่
1.ความต้องการทางกายภาพ หมายถึงความต้องการพื้นฐานของร่างกายซึ่งจำเป็นในการ ดำรงชีวิต ได้แก่ความต้องการอาหาร น้ำ อากาศ เสื้อผ้า
2.ความต้องการความปลอดภัย  หมายถึง ความต้องการมั่นคงปลอดภัยทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ
3. ความต้องการทางสังคม หมายถึง ความต้องการที่จะเป็นที่รักของผู้อื่น และต้องการมีสัมพันธภาพที่ดีกับบุคคลอื่น
4.ความต้องการยกย่องชื่อเสียง หมายถึง ความปรารถนาที่จะมองตนเองว่ามีคุณค่าสูง เป็นที่น่าเคารพยกย่องจากทั้งตนเองและผู้อื่น ต้องการที่จะให้ผู้อื่นเห็นตนมีความสามารถ มีคุณค่า มีเกียรติ มีตำแหน่งฐานะ บุคคลที่มีความต้องการประเภทนี้จะเป็นผู้ที่มีความมั่นใจในตนเอง
5.ความต้องการที่จะรู้จักตนเองตามสภาพที่แท้จริงและความสำเร็จของชีวิต หมายถึง ความต้องการที่จะรู้จักและเข้าใจตนเองตามสภาพที่แท้จริงเพื่อพัฒนาชีวิตของตนเองให้สมบูรณ์

แหล่งที่มา https://markbnnk.wordpress.com

ประเมินผู้สอน : คุณครูแต่งกายสุภาพเรียบร้อย สอนเข้าใจ

ประเมินเพื่อน  : เพื่อนๆให้ความร่วมมือในการเรียนการสอน
ประเมินตนเอง: มีสมาธิขณะเรียน มาทันเวลา